กฎบัตรคณะกรรมการและคณะกรรมการชุดย่อยของบริษัท จัดทำขึ้นเพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อย โดยบริษัทได้ยึดถึอเป็นนโยบายสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยเคร่งครัดและปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน
บริษัทฯ ยึดมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นดังกล่าว บริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายการต่อต้านการคอร์รัปชั่นขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยเห็นความสำคัญของการต่อต้านการคอร์รัปชั่นทั้งในและนอกองค์กร อันจะส่งผลให้การดำเนินกิจการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขั้น ทั้งนี้ยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ ลูกค้า และผู้ถือหุ้น ในแง่ของการเป็นบริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี อีกทั้งยังช่วยพัฒนาศักยภาพของบริษัทฯ ให้เจริญเติบโต ก้าวหน้าและมีความมั่นคงอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับการรับรองจากการ CAC ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 แล้ว
1. หลักการและเหตุผล
ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ
รวมทั้งระบบสื่อสารได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การเข้าถึงการเก็บ
รวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สามารถทำได้โดยง่าย สะดวก
และรวดเร็ว อันอาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อ
เจ้าของข้อมูล ประกอบกับได้มีพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 ราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม
พ.ศ. 2562 แล้วนั้น
บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data
Privacy) ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำคัญใน
ความเป็นส่วนตัว (Privacy Right)
ที่ต้องได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
บริษัทมีความมุ่งมั่นในการ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 ซึ่งเพิ่มเติมจากที่ได้มีการบัญญัติไว้
ตามกฎหมายเฉพาะ บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(Personal Data Protection Policy) ตามพระราชบัญญัติ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
เพื่อให้การปฏิบัติงานของบริษัทเป็นไปตามกฎหมาย
มาตรฐานสากลในการคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคล และสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์ในการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
และมาตรการในการบริหารจัดการการละเมิดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพและ
เหมาะสม
2. วัตถุประสงค์
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้
จัดทำขึ้นเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งทำการค้า
ธุรกรรม ใช้บริการ มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท
โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
2.1 เพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่ ของหน่วยงาน ผู้บริหาร พนักงาน
ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
2.2
เพื่อกำหนดขั้นตอนหรือมาตรการรักษาความปลอดภัยในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
2.3
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ต่อบุคคล ลูกค้า คู่ค้า ผู้ใช้บริการ
ตลอดจนบุคคลอื่นๆ
ซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียหรือเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
3. ขอบเขตการใช้
3.1 ให้ประกาศฉบับนี้ มีผลใช้บังคับกับคณะกรรมการ กรรมการ ผู้บริหาร
และพนักงานทุกระดับของ บริษัท เฮลท์ เอ็ม
ไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ รวมถึงคู่ค้า
ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัท
3.2 ให้ประกาศฉบับนี้
มีผลใช้บังคับกับทุกกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
4. คำนิยาม
"บริษัท" หมายความว่า บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) และบริษัทในเครือ
“บริษัทในเครือ” หมายความว่า บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อย
และบริษัทร่วมของบริษัท และหมายความรวมถึงผู้กระทำการแทนของบริษัท
ดังกล่าวด้วย
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่า
ทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
"ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว" หมายความว่า
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความเสี่ยงอาจถูกนำไปสู่การเลือกปฏิบัติ
(Sensitive Data) อย่างไม่เป็นธรรม ในที่นี้หมายถึง เชื้อชาติ ศาสนา
พฤติกรรมทางเพศ ประวัติ
อาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ
หรืออื่นๆ
ตามที่กฎหมายกำหนด
"เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า
บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้นว่า ลูกค้า คู่ค้า
ผู้ใช้บริการ และพนักงาน
"ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า
บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บ
รวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในที่นี้หมายถึง บริษัท
หน่วยงาน
พนักงานที่รับผิดชอบในข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
"ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า
บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ
เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามค าสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคลล
ใน
ที่นี้หมายถึง คู่ค้า บุคคลหรือบริษัทภายนอกที่บริษัทได้ว่าจ้าง
"บุคคล" หมายความว่า บุคคลธรรมดา
"บุคคลผู้หย่อนความสามารถ" หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์
เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้
ความสามารถตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
"เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า
บุคคลซึ่งบริษัทแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล
(Data Protection Officer: DPO) ส่วนบุคคล
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
คุกกี้(Cookies) หมายความว่า ไฟล์ขนาดเล็ก ซึ่งอาจถูกติดตั้ง และ/หรือ
จัดเก็บในอุปกรณ์ของ
ผู้เข้าชมเว็บไชต์ของบริษัท (เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต
เป็นต้น)
5. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลให้กระทำได้ภายใต้วัตถุประสงค์และเท่าที่จำเป็นตามกรอบวัตถุประสงค์หรือเพื่อ
ประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม
พร้อมทั้งแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึง
รายละเอียดดังต่อไปนี้ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
1) วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม
2) ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมไว้
3) ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งอาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
4) ข้อมูลหรือช่องทางการติดต่อกับบริษัท
5) สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
6) แจ้งผลกระทบจากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมาย
กำหนด หรือเพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญา ทั้งนี้
เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ ไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของ
ข้อมูลส่วนบุคคล
ก) เพื่อประโยชน์สาธารณะ การศึกษาวิจัย การทำสถิติ
หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย
ข) เป็นการดำเนินการเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต
ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ค)
เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
ง)
เป็นการจำเป็นตามหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากภาครัฐ
หรือเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือของบุคคล
หรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ซึ่งประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายนั้นมีความสำคัญมากกว่าสิทธิขั้นฟื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
5.2 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้หย่อนความความสามารถ
การเก็บรวบรวมข้อมูสส่วนบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์
เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ใดๆ ซึ่งผู้เยาว์ไม่
อาจดำเนินการเองได้โดยลำพังตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพณิชย์กำหนดไว้
ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง
หรือผู้ทำการแทนผู้เยาว์ด้วย เว้นแต่กรณีผู้เยาว์อายุไม่เกิน 10 ปี
ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้การแทน
ผู้เยาว์เท่านั้น
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคลลซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นบุลคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถต้องได้รับ
ความยินยอมจากผู้อนุบาลหรือจากผู้พิทักษ์
หรือบุคคลผู้ทำการแทนเท่านั้น
5.3 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive
Data)
บริษัทจะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)
เว้นแต่มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม โดยต้อง
ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ยกเว้นในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้สามารถเก็บรวบรวมได้โดยไม่
ต้องขอความยินยอม
5.4 การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะ
ทำการเก็บรวบรวม
หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วน
บุคคล และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ไม่ต้องขอความยินยอมจาก
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
บุคคลหรือนิติบุคคลอื่น
ซึ่งได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตกลงยินยอมให้เปิดเผยหรือเป็น
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตกลงยินยอมให้ไว้กับบริษัท
และตามที่บุคคลหรือนิติบุคลลนั้นได้แจ้งไว้กับบริษัทเท่านั้น
6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาดังต่อไปนี้
6.1
ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ
เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์, พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543
พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม
การฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และ พระราชบัญญัติความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ศ. 2550 ประมวลรัษฎากร เป็นต้น
6.2 ในกรณีที่กฎหมายไม่ได้ก
าหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะบริษัทจะกำหนดระยะเวลา
ในการจัดเก็บตามความจ าเป็นที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของบริษัท
เมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษาดังกล่าว บริษัทจะ
ดำเนินการลบ ทำลาย
หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในกรณีที่บริษัทมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
บริษัทจะต้องดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศ
ปลายทางดังกล่าวมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ
อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ประเทศปลายทางไม่มีมาตรฐานการ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ การส่ง
หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามข้อยกเว้นตามหลักเกณฑ์ที่บริษัท
กำหนด โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย
8. คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมไว้นั้น ต้องถูกต้องเป็นปัจจุบัน
สมบูรณ์ ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และต้องดำเนินการ
จัดให้มีช่องทางให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถร้องขอหรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเองได้
9. บทบาทหน้าที่ ละความรับผิดชอบ
บริษัทกำหนดให้พนักงานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
ต้องให้ความสำคัญและรับผิดชอบในการเก็บ
รวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอย่างเคร่งครัด
โดยกำหนดให้บุคคลหรือหน่วยงานดังต่อไปนี้
ทำหน้าที่กำกับและตรวจสอบให้การดำเนินงานของบริษัทนั้นถูกต้องและเป็นไปตาม
นโยบายและกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
9.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
9.1.1
จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม
และทบทวนมาตรการอย่าง
สม่ำเสมอเพื่อให้มาตรการดังกล่าวมีประสิทธิภาพ
ทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
9.1.2
กำหนดขอบเขตการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยต่อบุคคลหรือนิติบุคลลอื่น
9.1.3จัดให้มีระบบตรวจสอบการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
9.1.4 บันทึกรายการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
9.1.5 จัดทำข้อตกลงกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
นิติบุคคลหรือบุคคลภายนอกอื่นใด หากมีการเปิดเผยข้อมูลส่วน
บุคคลให้แก่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ว่าจ้าง
นิติบุคคลหรือบุคคลภายนอกอื่นใด โดยผู้ประมวลผลข้อมูล นิติบุคคล หรือ
บุคคลภายนอกดังกล่าว ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัย การเก็บ การใช้
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต้องเป็นไปตาม
นโยบายฉบับนี้ และตามพระราชบัญญัติคุมครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
9.2 ผู้ประมวลข้อมูลส่วนบุคคล
9.2.1 ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งที่ได้รับจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วน
บุคคล
9.2.2
จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม
9.2.3
จัดทำและเก็บรักษาบันทึกรายการของกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไว้
9.3 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
9.3.1 ให้คำแนะนำในด้านต่างๆ
ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้บริหาร พนักงาน
และคู่ค้า
9.3.2
ตรวจสอบการดำเนินงานของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
9.3.3
ประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับ
การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทในเครือ
และคู่ค้าของบริษัท
9.4 หน่วยงานกฎหมาย
9.4.1 จัดทำและทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9.4.2 ให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9.5 หน่วยงานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
9.5.1
ประเมินความเสี่ยงและแผนการจัดการความเสี่ยงในกระบวนการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
9.5.2 รายงานเรื่องความเสี่ยงต่อคณะกรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร
9.6 หน่วยงานตรวจสอบภายใน
9.6.1 ตรวจสอบการทำงานของผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
9.6.2 สอบทานและประเมินประสิทธิภาพของระบบรักษาข้อมูลส่วนบุลคล
9.6.3 รายงานผลการตรวจสอบต่อคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัท
9.7 บริษัทในเครือ หน่วยงานระดับสำนักหรือเทียบเท่า
9.7.1
ให้ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทในเครือหรือผู้บริหารสูงสุดของสำนักในระดับสำนักหรือเทียบเท่า
มีหน้าที่สั่งการ
ควบคุม
กำกับดูแลให้พนักงานภายในสังกัดของตนปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 และนโยบาย
ฉบับนี้โดยเคร่งครัด โดยให้มีหน้าที่เป็นผู้ประสานงานข้อมูลส่วนบุคคล
(Data Protection Coordinator: DPC) หรือแต่งตั้งผู้
ประสานงานข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงแจ้งเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ซึ่งเกิดขึ้นในบริษัทหรือหน่วยงานของตนต่อเจ้าหน้าที่
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
9.7.2 บริษัทในเครือ หน่วยงานระดับสายงาน ระดับส านักหรือเทียบเท่า
สามารถออกข้อกำหนดหรือระเบียบปฏิบัติ
เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อใช้บังคับภายในหน่วยงานของตนได้ ทั้งนี้
ข้อกำหนดหรือระเบียบปฏิบัติดังกล่าวนั้น
ต้องเป็นไปตามนโยบายฉบับนี้และตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 และต้องแจ้งให้กับหน่วยงาน
กฎหมายทราบ
9.8 คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9.8.1
จัดทำแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทให้ครบถ้วนและถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
9.8.2 กำกับดูแลหน่วยงานต่างๆ ของบริษัท บริษัทในเครือ
และคู่ค้าของบริษัทให้ดำเนินงานตามนโยบายและแนว
ปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
9.8.3 รายงานการปฏิบัติของหน่วยงานต่างๆ ของบริษัท บริษัทในเครือ
และคู่ค้าของบริษัทต่อคณะกรรมการเจ้าหน้าที่
บริหาร
9.8.4
ประเมินความเสี่ยงด้านการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลที่พนักงานในแผนก/ฝ่าย
มีต่อบุคคลที่สาม พร้อมนำเสนอ
แนวทางการป้องกันและแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลของของมูลส่วนบุคคล
9.8.5 จัดทำแนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9.8.6 ประเมินผลนโยบาย
และแนวทางปฏิบัติรวมถึงวิเคราะห์จุดที่ควรปรับปรุง แก้ไข
10. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
เพื่อประโยชน์ในการรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้มีมาตรการ ดังนี้
10.1 กำหนดสิทธิในการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการแสดงหรือยืนยันตัวบุคคล
ผู้เข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
10.2 ในการส่ง การโอนข้อมูลส่วนบุคลลไปยังต่างประเทศ
รวมถึงการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บบนฐานข้อมูลในระบบ
อื่นใด
ซึ่งผู้ให้บริการรับโอนข้อมูลหรือบริการเก็บรักษาข้อมูลอยู่ต่างประเทศ
ประเทศปลายทางที่เก็บรักษาข้อมูลต้องมีมาตรการ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่าหรือดีกว่ามาตรการตามนโยบายนี้
10.3 ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริษัท
จนเป็นเหตุให้มีการละเมิดข้อมูล ส่วน
บุคคล บริษัทจะดำเนินการแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลทราบ
ภายใน 72 ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุเท่าที่
จะสามารถทำได้
เว้นแต่การละเมิดนั้นมีความเสี่ยงที่จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะด าเนินการ
แจ้งเหตุการละเมิดพร้อมทั้งแนวทางการเยียวยาให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้า
ทั้งนี้ บริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณี
ความเสียหายใดๆ
อันเกิดจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคลอื่นใดซึ่งได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
จงใจหรือประมาทเลินเล่อ หรือเพิกเฉยต่อมาตรการรักษาความปลอดภัย
จนเป็นเหตุให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกใช้หรือเปิดเผยต่อ
บุคคลที่สามหรือบุคคลอื่นใด
11. คุกกี้(Cookies) และการใช้คุกกี้
ในการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัท
อาจมีการวางคุกกี้ไว้ในอุปกรณ์ของผู้เข้าชม
และมีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยอัตโนมัติ
คุกกี้บางส่วนมีความจำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม
และบางส่วนเป็นคุกกี้ที่มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวก
แก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในนโยบายคุกกี้ของบริษัท
ซึ่งปรากฎอยู่ที่เว็บไซต์ของบริษัท
12. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตน
ขอรับสำเนา ขอถอนความยินยอม คัดค้านการเก็บ
การใช้ การเปิดเผย ขอให้ลบทำลายหรือพักการใช้
ขอแก้ไขข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ร้องเรียน
หรือขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของตน
ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่น
เว้นแต่เป็นการกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น
เป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสาธารณะประโยซน์หรือตาม
กฎหมาย หรือเพื่อการศึกษาวิจัย ทั้งนี้
เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
13. การร้องเรียน การแจ้งเบาะแส
กรณีพบเหตุอันควรสงสัยหรือเชื่อว่ามีการละเมิดการข้อมูลส่วนบุลคล
การร้องเรียน หรือการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล
ส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้
หรือตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
สามารถติดต่อกับบริษัทได้ ดังนี้
บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ : 51 อาคารเมเจอร์ ทาวเวอร์ พระราม 9 - รามคำแหง ชั้นที่
20 ห้องเลขที่ OFFICE 2 ถนนพระราม 9
แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
เวลาทำการ : วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 18.00 น.
Email Address : pdpa@healthempire.co.th
Website : www.healthempire.co.th
Call Center : 02-514-5000
14. การฝึกอบรม
บริษัทจัดให้มีการฝึกอบรมและประเมินผลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ให้กับผู้บริหารและ
พนักงานทุกระดับ
15. การทบทวนนโยบาย
บริษัทอาจมีการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และ
กฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบด้วยการ
อัพเดตข้อมูลลงในเว็บไซต์ของบริษัทโดยเร็วที่สุด
16. บทกำหนดโทษ
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ประมวลผลข้อมูล
หรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามหน้าที่ของ
ตน หากละเลยหรือละเว้นไม่สั่งการ หรือไม่ดำเนินการ หรือสั่งการ
หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในหน้าที่ของตน อันเป็นการ
ฝ่าฝืนนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล
และ/หรือตามที่พระราชปัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
กำหนด จนเป็นเหตุให้เกิดความผิดตามกฎหมายและ/หรือความเสียหายขึ้น
ผู้นั้นต้องรับโทษทางวินัยตามระเบียบของบริษัทและ
ต้องรับโทษทางกฎหมายตามความผิดที่เกิดขึ้น ทั้งนี้
หากความผิดดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทและ/หรือบุคคลอื่นใด
บริษัทอาจพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป
ด้วยวิสัยทัศน์ “มุ่งมั่นเป็นบริษัทฯ ชั้นนำของคนไทยที่จะสรรหา วิจัย ผลิต และพัฒนาสินค้าไทย มีมาตรฐานระดับสากลและเป็นอันดับหนึ่งในใจของผู้บริโภค” บริษัทฯ ได้นำแนวคิดด้านความยั่งยืน ทั้งมิติเศรษฐกิจ มิติสังคม และมิติสิ่งแวดล้อม เข้ามาผสานเป็นส่วนหนึ่งกับการพัฒนาองค์กร ด้วยการกำหนดแผนกลยทุธ์โครงสร้างองค์กร การจัดให้มีระบบและเทคโนโลยีสารสนเทศ และ กระบวนการทำงาน ที่เอื้อให้บุคลากรรังสรรค์งานที่มีคุณภาพ ส่งมอบคุณค่าผ่านผลงานวิจัย ผลิตภัณฑ์และบริการ เสริมสร้างให้บริษัทฯ แข็งแกร่งท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้นเพื่อ ตอบแทนและเติบโตไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน
เว็บไซต์บริษัท: | https://www.healthempire.co.th |
อีเมล: | info@healthempire.co.th |
ทางไปรษณีย์ หรือยื่นส่งโดยตรงได้ที่: |
บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เลขที่ 51 อาคารเมเจอร์ ทาวเวอร์ พระราม 9 - รามคำแหง ชั้นที่ 20 ห้องเลขที่ OFFICE 2 ถนนพระราม 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 |
ช่องทางเร่งด่วน: | หมายเลขโทรศัพท์ 02-514-5000, 02-514-5151 |
เว็บไซต์บริษัท: | https://www.healthempire.co.th |
อีเมล: | anti_corruption@healthempire.co.th |
ทางไปรษณีย์ หรือยื่นส่งโดยตรงได้ที่: |
คณะอนุกรรมการต่อต้านการคอร์รัปชัน บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เลขที่ 51 อาคารเมเจอร์ ทาวเวอร์ พระราม 9 - รามคำแหง ชั้นที่ 20 ห้องเลขที่ OFFICE 2 ถนนพระราม 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 |
ช่องทางเร่งด่วน: |
(1) คณะอนุกรรมการต่อต้านการคอร์รัปชัน 02-514-5000, 02-514-5151 ต่อ 1 (2) สำนักตรวจสอบภายใน 086-330-5464 |
เว็บไซต์บริษัท: | https://www.healthempire.co.th |
อีเมล: | pdpa@healthempire.co.th |
ทางไปรษณีย์ หรือยื่นส่งโดยตรงได้ที่: |
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เลขที่ 51 อาคารเมเจอร์ ทาวเวอร์ พระราม 9 - รามคำแหง ชั้นที่ 20 ห้องเลขที่ OFFICE 2 ถนนพระราม 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 |
ช่องทางเร่งด่วน: | คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 02-514-5000, 02-514-5151 |
ภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 มี.ค. 2567 ประเภท : XM | ||
---|---|---|
ลำดับที่ | รายชื่อผู้ถือหุ้น | จำนวนหุ้น |
1 | บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) | 128,314,922 |
2 | น.ส. อัยลดา ชินวัฒน์ | 58,017,041 |
3 | นาย สามารถ ฉั่วศิริพัฒนา | 26,702,889 |
4 | นาย สมบัติ พานิชชีวะ | 17,199,923 |
5 | นาย ธิบดี มังคะลี | 15,507,752 |
6 | นาย ศุภชัย บุญประภากร | 8,841,156 |
7 | นาย ปริญญา ปริญญานุสสรณ์ | 8,550,000 |
8 | นาย ธเนศ พานิชชีวะ | 5,813,953 |
9 | นาง ณัฎฐินี สูงสว่าง | 5,600,000 |
10 | นาย ฉัตรชัย วงศ์สกุลชัย | 5,208,030 |
11 | นาย อดุลย์ชัย อารยาภิวัฒน์ | 5,124,031 |
12 | นาย สุเมธ มโนสุทธิ | 4,847,124 |
13 | น.ส. ธนภัทร ธรรมสุทธิ์ | 4,757,700 |
14 | นาย ณัฏฐวุฒิ ชีวมงคล | 4,242,636 |
15 | นาย กัลพล ปริญญานุสสรณ์ | 3,671,926 |
16 | บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 3,480,964 |
17 | น.ส. ทิพย์ชัญญา ธนรัชต์ไชย | 3,055,000 |
18 | นาย นิรันดร์ จาวลา | 2,242,896 |
19 | น.ส. อภิวันทน์ อัจฉริยประทีป | 2,188,393 |
เลขที่ 51 อาคารเมเจอร์ ทาวเวอร์ พระราม 9 - รามคำแหง ชั้นที่ 20 ห้องเลขที่ OFFICE 2 ถนนพระราม 9 แขวงหัวหมาก
ir@healthempire.co.th
02 514
5000
02 514
5151
นายทะเบียนหลักทรัพย์ | บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด |
สถานที่ตั้ง | 93 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชั้น 1 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 |
โทรศัพท์ | 0-2009-9000 |
Call Center | 0-2009-9999 |
Website | www.set.or.th/tsd |
SETContactCenter@set.or.th | |
ผู้สอบบัญชี | นายเจษฎา หังสพฤกษ์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 3759 |
นางสาวกรรณิการ์ วิภาณุรัตน์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 7305 | |
นายจิโรจ ศิริโรโรจน์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 5113 | |
นายโกมินทร์ ลิ้นปราชญา ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 3675 | |
นายพจน์ อัศวสันติชัย ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 4891 | |
สถานที่ตั้ง | เลขที่ 72 อาคาร กสท โทรคมนาคม ชั้นที่ 24 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 |
โทรศัพท์ | 0-2105-4661 |
โทรสาร | 0-2026-3760 |
audit@karinaudit.co.th | |
ผู้ควบคุมดูแลการทำบัญชี | นางสาวสุกัญญา แก้วสะอาด |
เลขานุการบริษัท และนักลงทุนสัมพันธ์ | นางสาวไพรัลยา วงศ์สกุลเพชร |
หัวหน้างานตรวจสอบภายใน | นางสาววราพร ภู่สิทธิศักดิ์ |
ติดต่อสอบถาม | 02-514-5000, 02-514-5151 |